Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

ข่าวสาร & ไลฟ์สไตล์

น้ำมันมะพร้าวต้านโรคเบาหวาน

น้ำมันมะพร้าวต้านโรคเบาหวาน

คุณรู้หรือไม่ว่านิสัยหลายๆอย่างของผู้หญิงอย่างเรานั้นคล้ายคนเป็นโรคเบาหวาน เคยสังเกตหรือเช็คตัวเองหรือเปล่า ว่าที่กินเยอะๆ เหนื่อยง่าย แขนขาชา ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำ อาการธรรมดาที่คุณคิดว่าเป็นปกติ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนว่าคุณอาจจะเป็นโรคเบาหวานแล้ว

เบาหวานเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของตับอ่อน ที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอ หรือไม่ได้เลย อินซูลินมีหน้าที่นำน้ำตาลเข้าไปในเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย เพื่อเผาผลาญให้เกิดพลังงาน ใช้เป็นองค์ประกอบของเซลล์ที่เกิดใหม่ และซ่อมแซมส่วนสึกหรอ การขาดอินซูลินส่งผลให้น้ำตาลไม่สามารถเข้าไปในเซลล์ได้ จึงสะสมอยู่ในกระแสเลือด น้ำตาลส่วนหนึ่งจะถูกไตขับออกไปสู่ปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะหวานจนมดมากิน อันเป็นที่มาของชื่อโรคในภาษาไทยว่า “โรคเบาหวาน”

สาเหตุของโรคเบาหวาน

1. กรรมพันธ์: เป็นความผิดปกติที่ถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ กล่าวคือ การมีพ่อแม่หรือญาติพี่น้องเป็นโรคนี้ ก็เป็นสาเหตุของโรคเบาหวานประเภทที่ 1 เกิดขึ้นในเด็กจนถึงวัยรุ่น

2. การปฎิบัติตัวไม่เหมาะสม: เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นเพราะผู้ป่วยปฎิบัติตัวไม่เหมาะสม ได้แก่

    – บริโภคอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น การบริโภคน้ำตาลและแป้งมากเกินไป และขาดการออกกำลังกาย แต่ที่สำคัญคือการบริโภคน้ำมันไม่อิ่มตัวที่เข้าไปเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ และไปลดประสิทธิภาพของเซลล์ในการเกาะติดกับอินซูลิน ที่เป็นตัวช่วยพาน้ำตาลเข้าไปในเซลล์

    – ใช้ยาเกินความจำเป็น ยาบางอย่างเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานได้ เช่น ยาพวกสเตอรอยด์ ยาขับปัสสาวะ ยาเม็ดคุมกำเนิด

    – สภาวะอื่นๆ เช่น อ้วนเกินไป มีลูกดก ก็เป็นสาเหตุของโรคเบาหวานได้เช่นกัน

    – เป็นโรคอื่นๆที่เป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน เช่น โรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง โรคมะเร็งของตับอ่อน โรคตับแข็งระยะสุดท้าย โรคคอหอยพอกเป็นพิษ โรคคุชชิง

ข้อมูลจากเอกสารวิชาการเรื่องน้ำมันมะพร้าวป้องกันรักษาโรคเบาหวานได้อย่างไร โดย ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา ประธานชมรมอนุรักษ์และพัฒนาน้ำมันมะพร้าวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันชนิดเดียวในโลกที่สามารถแก้ปัญหาของโรคเบาหวานได้ โดยทำหน้าที่ดังต่อไปนี้

1. น้ำมันมะพร้าวเป็นอาหารให้แก่เซลล์ ช่วยให้เซลล์ทำงานดีขึ้นและนำน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดในระดับคงที่

น้ำตาลกลูโคสและกรดไขมันโมเลกุลสายยาว ส่งผลกระทบต่อร่างกายคล้ายกันคือ ไม่สามารถเข้าไปในเซลล์ได้ด้วยตัวเอง เพราะมีโมเลกุลขนาดใหญ่ จำเป็นต้องมีอินซูลินเป็นตัวกลาง แต่น้ำมันมะพร้าวประกอบด้วยกรดมันโมเลกุลขนาดกลางที่มีขนาดเล็กกว่ามาก จึงเข้าไปในเซลล์ได้โดยไม่ต้องพึ่งอินซูลินเป็นตัวกลาง อีกทั้งน้ำมันมะพร้าวยังใช้เป็นอาหารหล่อเลี้ยงเซลล์ได้ ส่งผลให้เซลล์มีอาหารโดยไม่ต้องพึ่งอินซูลิน เซลล์สามารถใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นอาหารได้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีอาการแขนขาชาจากการที่เซลล์ไม่ได้รับอาหาร จะกลับมามีความรู้สึกอีกได้หลังจากบริโภคน้ำมันมะพร้าวเพียงไม่กี่สัปดาห์ ดังนั้น น้ำมันมะพร้าวจึงเป็นยาวิเศษที่ช่วยแก้อาการนี้ได้ โดยไม่มีอันตรายใดๆ

นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคเบาหวานยังขาดพลังงาน เพราะเซลล์ไม่ได้รับน้ำตาลอย่างเพียงพอ เมื่อปราศจากน้ำตาลที่จะให้พลังงานแก่การทำงานของเซลล์ เมแทบอลิซึมก็จะช้าลง เป็นผลให้ร่างกายเหนื่อยอ่อน เซื่องซึม แต่น้ำมันมะพร้าวช่วยให้เซลล์ได้รับพลังงาน จึงทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานกลับมีพลังขึ้น

2. น้ำมันมะพร้าวเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างและตอบสนองต่ออินซูลิน

น้ำมันมะพร้าวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างอินซูลินของตับอ่อน ทำให้ร่างกายมีอินซูลินอย่างเพียงพอ (สำหรับโรคเบาหวานชนิดที่ 1) และเซลล์ตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้น ทำให้ไม่ต้องใช้อินซูลินมากกว่าปกติ (สำหรับโรคเบาหวานชนิดที่ 2) ทั้งนี้เพราะน้ำมันมะพร้าวทำหน้าที่ดังต่อไปนี้

    – ช่วยกระตุ้นกระบวนการเมแทบอลิซึม น้ำมันมะพร้าวนั้นสามารถกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ได้ จึงช่วยเพิ่มอัตราเมแทบอลิซึม ส่งผลให้มีการผลิตอินซูลินและการดูดซึมน้ำตาลเข้าไปในเซลล์เพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ น้ำมันมะพร้าวจึงช่วยลดความจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาการฉีดอินซูลินในการรักษาโรคเบาหวาน น้ำมันมะพร้าวจึงเป็นตัวช่วยที่ดีของผู้ป่วยโรคเบาหวานทั้งชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 นอกจากนี้ การกินน้ำมันมะพร้าวยังช่วยป้องกันเบาหวานได้ เพราะช่วยเพิ่มอัตราเมแทบอลิซึม ทำให้ร่างกายเผาผลาญอาหารได้มากขึ้น จึงช่วยควบคุมน้ำหนักตัวได้ดี เมื่อกินน้ำมันมะพร้าวร่วมกับการควบคุมอาหารอย่างถูกต้อง ก็มีส่วนช่วยทำให้คนอ้วนผอมลง ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้อีกทางหนึ่ง

    – ช่วยให้ตับอ่อนกลับมาสร้างอินซูลินได้อีกครั้ง เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวสามารถทดแทนอาหารของเซลล์ได้ โดยไม่ต้องพึ่งอินซูลิน ทำให้ความต้องการเอนไซม์ที่ใช้ในการผลิตอินซูลินในตับอ่อนลดลง จึงช่วยลดความเครียดของตับอ่อน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานจนอาจกลับมาสร้างอินซูลินได้ดังเดิม

    – เพิ่มการสนองตอบต่ออินซูลิน ในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเซลล์ไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน น้ำมันมะพร้าวจะช่วยแก้อาการนี้ได้ โดยการทำให้เซลล์เปิด “ประตู” รับน้ำตาลเข้าไปในเซลล์มากขึ้น ทำให้ไม่จำเป็นที่ตับอ่อนจะต้องสร้างอินซูลินมากเกินจำเป็น

3. น้ำมันมะพร้าวช่วยปรับระดับของน้ำตาลในกระแสเลือด

มีการศึกษาพบว่า น้ำมันมะพร้าวสามารถช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยช่วยลดการนำน้ำตาลเข้าไปในกระแสเลือดได้ ผู้ป่วยบางคนสามารถควบคุมและลดปริมาณน้ำตาลในเลือด โดยการเติมน้ำมันมะพร้าวในอาหาร

4. ช่วยใช้น้ำตาลในเลือดอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยสร้างความทนทานต่อการมีน้ำตาลสูง

มีรายงานว่า น้ำมันมะพร้าวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน ทำให้เซลล์ใช้ประโยชน์ของน้ำตาลอย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น นักวิจัยยังพบอีกว่า น้ำมันมะพร้าวยังช่วยสร้างความทนทานต่อการมีน้ำตาลสูง (glucose tolerance)

5. น้ำมันมะพร้าวช่วยลดค่าจีไอ

อาหารบางอย่างสามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดหรือค่าจีไอ (GI: Glycemic Index) ขึ้นสูงกว่าอาหารอื่นๆ ค่าจีไอจึงเป็นตัววัดผลของอาหาร แต่ละอย่างต่อการเกิดน้ำตาลในเลือด การเติมน้ำมันมะพร้าวลงไปในอาหารประเภทแป้งสามารถทำให้ค่าจีไอของอาหารเหล่านั้นต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น การเติมน้ำมันมะพร้าวลงไปในอาหารที่คุณรับประทาน จะช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานควบคุมระดับของน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น

วิธีใช้ง่ายๆไม่ยาก แค่ดื่มน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นบริสุทธิ์ หรือผสมลงในอาหารประจำวันประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ พบว่าสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ภายใน 30 นาที (ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม เมื่อรวมกับน้ำมันและไขมันในอาหารชนิดอื่นๆ ไขมันที่ได้รับโดยรวมต้องไม่เกินวันละ 3-4 ช้อนโต๊ะ)

ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือแม้แต่ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน จึงควรเลิกบริโภคน้ำมันไม่อิ่มตัวโดยสิ้นเชิง แล้วหันมาบริโภคน้ำมันมะพร้าวแทน วิธีนี้เป็นการรักษาโรคเบาหวานที่ง่ายและสะดวกที่สุด

ที่มา : http://health.haijai.com/2889/

เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารและโปรโมชั่นดีๆ ติดตามเราได้ที่

แสดงความคิดเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

LINE LOGO SVG